บทที่ 8

เอมิลี่ต้องตั้งใจเรียนเพื่อจะได้เข้าสู่สังคมชั้นสูงในสักวันหนึ่ง และเพื่อให้ได้ทรัพยากรของตระกูลแอนเดอร์สันมา เธอก็ต้องใช้สถานะลูกสาวของชาร์ลส์

แพทริเซียไม่ได้ว่าอะไรที่เอมิลี่จะเปลี่ยนนามสกุล อันที่จริง เธอดีใจมากด้วยซ้ำที่ชาร์ลส์เป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเอง แถมยังเร็วกว่าในชาติที่แล้วของเธอเสียอีก

“ไม่ต้องคิดแล้วค่ะ ทำตามที่คุณเสนอมาเลย” แพทริเซียเอ่ย

โทรศัพท์ของเธอสั่นขึ้น เธอจึงชำเลืองมอง เป็นนิโคลที่ส่งข้อความมาถามว่าอยากออกไปหาอะไรดื่มกันไหม

แพทริเซียคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองไปที่ชาร์ลส์ซึ่งอยู่ตรงหน้า “เดี๋ยวฉันมีธุระต่อน่ะค่ะ คุณอยู่บ้านกับเอมิลี่ได้ไหมคะ ช่วงนี้แกติดคุณมากเลย”

ไม่รอให้ชาร์ลส์ตอบ แพทริเซียก็รีบวิ่งออกจากประตูไป

เธออยู่กับตระกูลแอนเดอร์สันมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวเล่นสนุก ๆ เลย

เมื่อเธอมาถึงบาร์ที่นิโคลรออยู่ ก็พบว่าเพื่อนของเธอดื่มไปแล้วสามแก้ว กำลังฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ

นิโคลเงยหน้าขึ้นแล้วโผเข้าหาเธอ “ในที่สุดแกก็มา!”

“ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้” แพทริเซียขมวดคิ้ว กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาเตะจมูกทันทีที่เธอเข้าไปใกล้

“ช่างเรื่องนั้นก่อน เล่าเรื่องของแกมาดีกว่า” นิโคลพูดยื่นแก้ววิสกี้ให้แพทริเซีย “เรื่องที่บ้านแอนเดอร์สันเป็นยังไงบ้าง”

แม้ว่าจะคุยกันทางโทรศัพท์แล้ว แต่นิโคลก็อดไม่ได้ที่จะจู้จี้หน่อยเพราะไม่ได้เจอกันนาน

แพทริเซียรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

เธอและนิโคลรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยประถมและเป็นเหมือนคนในครอบครัว ตอนที่นิโคลรู้ว่าแพทริเซียตั้งท้องโดยไม่คาดคิด เธอก็ถึงกับเสนอตัวว่าจะช่วยเลี้ยงลูกให้

“ฉันสบายดีน่า ฉันไม่ได้โง่นะยะ แกคิดว่าตระกูลแอนเดอร์สันจะฮุบฉันได้ทั้งตัวเหรอ” แพทริเซียหัวเราะ

ไม่ว่าในชาติที่แล้วหรือชาตินี้ นิโคลคือคนเดียวที่เป็นห่วงเธออย่างแท้จริง

นิโคลเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของเธอ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ดวงตาของเธอดูอ่อนโยนและขี้เล่นขึ้น

“คนในสังคมชั้นสูงน่ะสวมหน้ากากเข้าหากันทั้งนั้น แล้วฉันก็ได้ยินมาว่าชาร์ลส์มีแฟนในข่าวลือเยอะแยะเลยนะ อาจจะเยอะกว่าที่เปิดเผยออกมาอีก ฉันดูวิดีโองานกาลานั่นแล้วเป็นห่วงแกแทบแย่!”

นิโคลคว้ามือของแพทริเซีย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล “ถ้าชาร์ลส์ทำไม่ดีกับแก แกจะเอาตัวรอดในบ้านนั้นได้ยังไง”

ร่างเงาตะคุ่มร่างหนึ่งหยุดยืนอยู่ที่มุมห้อง คอยฟังบทสนทนาของพวกเธอ

แพทริเซียรู้สึกแสบจมูกขึ้นมาและฝืนยิ้ม “งั้นฉันก็จะเตะเขาทิ้ง แล้วเรามาอยู่ด้วยกัน”

นิโคลกอดและหอมแก้มแพทริเซียด้วยความดีใจกับคำตอบของเธอ

“เออนี่ แพทริเซีย ฉันจะย้ายไปลูมินัสซิตี้แล้วนะ!” นิโคลพูดเจื้อยแจ้วไปพักหนึ่งก่อนจะนึกถึงเหตุผลที่นัดแพทริเซียออกมาได้

เธอหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าส่งให้แพทริเซีย

บนการ์ดเขียนว่า [ร้านเบเกอรี่แมวกลม]

“ฉันจะไปเปิดร้านเบเกอรี่ที่ลูมินัสซิตี้! แกกับเอมิลี่แวะไปกินเค้กได้ตลอดเลยนะ ฉันเลี้ยงเอง!”

ดวงตาของแพทริเซียมีน้ำตาคลอเบ้า เธอรู้ว่านิโคลย้ายไปลูมินัสซิตี้ก็เพราะเธอ

ในชาติที่แล้ว นิโคลย้ายไปลูมินัสซิตี้หลังจากที่แพทริเซียแต่งงานกับชาร์ลส์ได้หนึ่งปี เธอไม่ได้โทษแพทริเซียที่ไม่ยอมบอกเรื่องงานแต่ง แถมยังจับมือเธอไว้และสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ

เพื่อนทั้งสองกอดกันร้องไห้ เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็สบถด่า

โทรศัพท์ของแพทริเซียสั่นขึ้นอีกครั้ง เธอจึงรับสาย

“ฮัลโหล ใครคะ”

“คุณอยู่ไหน” เสียงของชาร์ลส์เย็นชาและไร้ความรู้สึก

แพทริเซียรีบใช้มือปิดไมโครโฟนของโทรศัพท์ พยายามกลบเสียงดนตรีในบาร์

“อะแฮ่ม ฉันอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมน่ะค่ะ”

“เอมิลี่อยู่บ้านร้องไห้หาคุณ” ชาร์ลส์พูดเสียงต่ำ

“ฉันจะกลับไปก่อนมื้อเย็นค่ะ แค่นี้นะคะ”

แพทริเซียวางสายแล้วหันไปดื่มกับนิโคลต่อ

นิโคลซึ่งหน้าตาสะสวยอยู่แล้ว มีคนเข้ามาคุยด้วยหลายคน เธออยากจะดึงแพทริเซียไปสนุกด้วยกันแต่ก็ลังเลเมื่อนึกถึงชาร์ลส์ ถ้าเขาจับได้จะทำยังไง

“ชาร์ลส์เหรอ เขาจะรู้ได้ยังไง” แพทริเซียพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“ก็จริง แต่ผู้ชายคนนั้นหน้าเหมือนสามีแกมากเลยนะ”

แพทริเซียหันไปมองแต่ไม่เห็นใครที่คุ้นหน้า “แกตาฝาดไปแล้ว”

เธอกระดกเหล้าไปอีกสองสามแก้ว

ชาร์ลส์มองแพทริเซียจากระยะไกล โดยมีพอลยืนอยู่ข้าง ๆ

“คุณแอนเดอร์สันครับ จะให้ผมไปแจ้งคุณผู้หญิงไหมครับ” พอลถามอย่างร้อนใจ

ชาร์ลส์ส่ายหน้า

ก่อนหน้านี้ แพทริเซียรีบร้อนออกจากบ้านไป ทิ้งเอมิลี่ไว้กับเขาโดยอ้างว่ามีธุระด่วน ที่ไหนได้ เธอกลับออกมาดื่มเหล้าและนินทาเขากับเพื่อน

พอลกำลังกระวนกระวายใจ เขาไม่คิดว่าที่นัดคุยกับลูกค้าจะเป็นบาร์แห่งนี้ และไม่คาดคิดว่าจะเจอแพทริเซียที่นี่ด้วย

ชาร์ลส์ไม่ล่วงรู้ถึงความสับสนในใจของเธอ เขาอัดวิดีโอด้วยโทรศัพท์แล้วพูดว่า “กลับคฤหาสน์โรสวูดกันเถอะ”

เมื่อแพทริเซียกลับถึงบ้าน เธอฉีดน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ หวังว่าจะไม่ถูกจับได้

ชั้นบน เธอพบว่าชาร์ลส์กำลังเล่นกับลูกสาวอยู่ในห้องนอนใหญ่ เอมิลี่กำลังถือยางรัดผม ขอให้ชาร์ลส์ช่วยมัดผมให้

ชาร์ลส์รับยางรัดผมมาอย่างงุ่มง่าม จ้องมองผมของเอมิลี่อย่างจนปัญญา

“แด๊ดดี้คะ หนูอยากได้ผมทรงสโนว์ไวท์!” ดวงตาของเอมิลี่เป็นประกาย

‘ผมของสโนว์ไวท์ไม่ได้มัด แต่จัดทรงโดยมืออาชีพต่างหาก’ ชาร์ลส์คิดในใจ

เขามองผมของเธออยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยังคิดไม่ออก ในที่สุดจึงพูดว่า “เอมิลี่ ให้แด๊ดดี้ฝึกแป๊บนึงนะ แล้วเดี๋ยวจะช่วยทำให้”

เขามองไปที่ประตูห้องนอนซึ่งกำลังถูกผลักเปิดออก แล้วยิ้ม “ดูสิว่าหม่ามี้กลับมารึยัง”

ความสนใจของเอมิลี่เปลี่ยนไปทันที เธอวิ่งไปหาแพทริเซียแล้วซบเข้ากับอกของเธอ

“หม่ามี้คะ วันนี้หนูเป็นเด็กดีมากเลย!” เอมิลี่อวด “หม่ามี้ไปไหนมาคะ หนูคิดถึง”

แพทริเซียรู้สึกผิดจึงหาข้ออ้าง “หม่ามี้ไปทำงานมาจ้ะ” เธอยื่นเอมิลี่กลับไปให้ชาร์ลส์ “ให้แด๊ดดี้เปิดการ์ตูนให้ดูสักสองสามเรื่องนะ หม่ามี้ต้องไปอาบน้ำก่อน”

ชาร์ลส์เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง “ปกติเอมิลี่ดูเรื่องอะไร”

“วินนี่เดอะพูห์!” เอมิลี่ตะโกน

ชาร์ลส์เปิดโทรศัพท์แล้วสุ่มเลือกวิดีโอหนึ่งขึ้นมา

วินาทีต่อมา เสียงดนตรีจากบาร์ก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของแพทริเซียที่ได้ยินแว่วๆ

“เอ๊ะ นั่นหม่ามี้ไม่ใช่เหรอคะ”

แพทริเซียที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอหันกลับไปเห็นโทรศัพท์ของชาร์ลส์กำลังเล่นวิดีโอที่เธอกำลังดื่มอยู่ที่บาร์!

“คุณ!”

แพทริเซียลนลานจนพูดไม่ออก

เอมิลี่ดูวิดีโออยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาเล็กๆ ของเธอกลอกไปมาเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอก ริมฝีปากของเธอก็สั่นระริกก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมา

“หม่ามี้โกหกหนู” เอมิลี่สะอื้น

เมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้ หัวใจของแพทริเซียก็เจ็บแปลบ เธออุ้มลูกขึ้นมาแล้วปลอบ “เอมิลี่จ๊ะ หม่ามี้ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกหนูนะ หม่ามี้ผิดไปแล้ว ขอโทษนะคะคนดี”

“ต่อไปหม่ามี้จะไม่โกหกหนูอีกแล้วนะ โอเคไหม คราวหน้าหม่ามี้จะไปไหนจะบอกหนูทุกครั้งเลย ดีไหมจ๊ะ” แพทริเซียคลอเคลียแก้มยุ้ยๆ ของเอมิลี่

อารมณ์ของเอมิลี่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เธอพยักหน้า

“ห้ามโกหกเอมิลี่อีกนะคะ”

“จ้ะ แม่ไม่โกหกแล้ว”

หลังจากปลอบเอมิลี่จนสงบแล้ว แพทริเซียก็รีบดึงชาร์ลส์ออกจากห้องนอนใหญ่ทันที

“นี่คุณหมายความว่ายังไง” แพทริเซียชี้ไปที่โทรศัพท์ของเขา

ชาร์ลส์กอดอก ใบหน้าเรียบเฉยและไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย “บอกความจริงกับลูกสาวของเรา เขามีสิทธิ์ที่จะรู้”

“ลูกยังเล็กอยู่นะ ฉันจะพาไปบาร์ได้ยังไงกัน” แพทริเซียโกรธจัด ผู้ชายคนนี้น่าเหลือเชื่อจริงๆ!

ชาร์ลส์ตอบกลับตามความเป็นจริง “การดื่มเหล้าต่อหน้าเด็กเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี”

ใบหน้าของแพทริเซียแข็งทื่อ ขมับของเธอกระตุก

นี่มันคำพูดที่เธอเคยใช้ด่าเขาเมื่อคราวก่อนไม่ใช่หรือไง

ผู้ชายเฮงซวย!

แพทริเซียจ้องมองชายที่ใจเย็นอยู่ตรงหน้าอย่างโกรธจนตัวสั่น

เธอคว้าเสื้อผ้าแล้วพยายามจะเดินหนี แต่ชาร์ลส์ขวางประตูห้องน้ำไว้ ไม่ให้เธอเข้าหรือออกได้

ชาร์ลส์เอนตัวพิงผนัง มองใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของแพทริเซีย ท่าทางท้าทายของเธอทำให้เขายิ้มออกมาเล็กน้อย

“คุณจะทำอะไร” แพทริเซียปัดมือเขาออก เสียงของเธอแสร้งทำเป็นดังขึ้น แต่แววตากลับฉายแววขี้เล่นซ่อนอยู่

ความดื้อรั้นของเธอทำให้ชาร์ลส์โน้มตัวเข้าไปใกล้ขึ้น ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดหน้าผากของเธอ

“โกรธมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

ลมหายใจของเขาทำให้หูของเธอแดงก่ำ ร่างกายสั่นสะท้านเล็กน้อย เธอไม่ใช่คนไร้เดียงสาและรู้ดีว่าชาร์ลส์หมายความว่าอย่างไร

แพทริเซียเหลือบมองลงต่ำ นึกถึงสัมผัสของแผงอกชาร์ลส์ใต้ฝ่ามือของเธอในคืนนั้น ความคิดนั้นทำให้หัวของเธออื้ออึง และฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นไปอีก

‘เอาน่า ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย ถึงปกติชาร์ลส์จะทำตัวงี่เง่า แต่คืนนั้นเขาก็ใช้ได้เลย ถ้าเขาอยาก มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร’ แพทริเซียคิด

เธอเอื้อมมือไปผลักอกของเขา ฝ่ามือสัมผัสกับผิวอุ่นๆ ของเขา หูของเธอแดงก่ำ เรี่ยวแรงของเธอค่อยๆ หายไป เหลือเพียงสัมผัสแผ่วเบาที่เหมือนการลูบไล้มากกว่าการผลักไส

เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ สติเหตุผลของชาร์ลส์ก็ขาดสะบั้น เขารวบเอวเธอเข้ามาแล้วจูบเธอ รวบมือเธอไพล่หลัง

โดยไม่สนใจแรงขัดขืนของเธอ เขาจูบไล้ตั้งแต่ริมฝีปากนุ่มของเธอ ไล่ลงมาที่ลำคอและไหปลาร้า

เมื่อถูกประคองเอวไว้ ลมหายใจของแพทริเซียก็หอบกระชั้น ตอนที่เธอสบตากับชาร์ลส์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา

ชาร์ลส์หยุดชะงัก ก้มลงมองมือที่เปียกชื้นของตัวเอง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป